วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ไม่ควรให้อาหารปลาในทะเล

มีเพื่อนๆ นักดำน้ำส่งบทความนี้มาให้ เลยขออนุญาต เอามาลงไว้ในบล็อกเพื่อเป็นความรู้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปต่อไป



ปลาที่มากินขนมปัง ส่วนมากจะเป็น ปลาหน้าด้าน คือ มาจากไหนไม่รู้ แล้วก็มากันเยอะขึ้น ๆ เรื่อย ๆ มารอแต่อาหารปลา แล้วยังเป็นอันธพาลอีกด้วย


ส่วนปลาขี้อายที่เป็นเจ้าถิ่นเดิม ก็จะโดนปลาหน้าด้านไล่ไปหมด ทำให้ระบบนิเวศน์ตรงนั้นไม่สมดุลย์ค่ะ น่าจะประมาณนี้นะคะ ( เคยอ่านที่ อ.ธรณ์ บอกไว้ค่ะ) ปล. ศัพท์หน้าด้าน อาจจะไม่ค่อยสุภาพขอโทษด้วยนะคะ แต่แบบเห็นภาพชัดดีค่ะ


การที่เราให้อาหารปลาจะทำให้ปลาหลายชนิดเข้ามากินอาหารที่นั่นครับ ถ้าเราให้อาหารในบริเวณนั้นบ่อย ๆ ปลาก็จะมาอาศัยในบริเวณนั้นกันมากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าตัวร้ายที่เราเห็นในรูป .. มันคือปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลืองครับ ... อันธพาลประจำแนวปะการัง ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะว่า ปกติหน้าที่ของปลาชนิดนี้ จะหากินตามแนวปะการัง และคอยทำความสะอาดไม่ไห้มีสิ่งอุดตัน ปะการังก็จะหายใจ และสร้างอาหาร ได้อย่างสบาย แต่เมื่อมีคนเอาอาหาร หรือขนมปังไปให้ มันก็จะ ขี้เกียจรอแต่อาหารที่คนเอามาให้ และที่สำคัญค่ะ เมื่อรู้ว่าบริเวณนั้นมีแหล่งอาหาร ที่มันไม่ต้องออกแรงหากินเอง มันก็จะรวมตัวกัน แล้วทำตัวเป็นอันธพาลไล่สิ่งมีชีวิต ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นออกไป เพื่อจะได้ไม่แย่งแหล่งอาหารของมัน สุดท้ายไม่มีใครทำหน้าที่ทำความสะอาดปะการัง เมื่อมีสิ่งอุดตันปะการังมากๆ ปะการังก็จะตายค่ะ


ใครที่เคยให้อาหารปลาตามแนวปะการัง ต้องเคยเห็นแน่นอนครับ เพราะคุณจะเห็นแต่ ปลาชนิดนี้อย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่เห็นปลาชนิดอื่น ๆ เลย เนื่องจากปลาในตระกูลสลิดหินถึงจะเป็นปลาเล็ก แต่ดุร้ายและหวงถิ่นครับ ตัวเราเองไม่รู้หรอกครับ เพราะความที่มันตัวเล็ก ถึงกัดเราอย่างไรก็ไม่เจ็บ บางทีกลายเป็นว่าดูน่ารัก ... มาตอดเราด้วย แต่กับปลาด้วยกัน การโดนรุมกัดหาง กัดครีบ ก็น่ากลัวอยู่ครับ เจ้าสลิดหินพอไปอยู่ที่ไหน มันก็จะไล่ปลาอื่น ๆ ออกจากบริเวณนั้นครับ ปลาที่ควรจะอยู่ในระบบนิเวศน์ของที่นั้น ก็เลยต้องหนีออกไป สมดุลย์ของระบบนิเวศน์ก็จะถูกทำลาย
สุดท้ายระบบนิเวศน์หรือแนวปะการังแถบนั้นก็จะล่มสลาย เหลือแต่เพียงปลาสลิดหินจำนวนมากมารอรับอาหารจากนักท่องเที่ยวเท่านั้น
ถ้าไม่เข้าใจก็ลองคิดถึงห่วงโซ่อาหารนะครับ ไม่มีหญ้า ก็จะไม่มีกระต่าย พอไม่มีกระต่ายก็ไม่มีเสือ ทุกอย่างผูกพันกันหมดครับ
นอกจากนี้แล้ว ที่ ๆ ปลาสลิดหินควรจะอยู่ ก็กลับไม่มีปลาสลิดหินอยู่ ก็อาจจะทำให้ระบบนิเวศน์ล่มสลาย เช่นกัน
อยากรู้เพิ่มเติมก็ตามไปอ่านบทบาทของปลาสลิดหินกันต่อที่นี่นะครับ http://www.ezytrip.com/webboard/show.php?id=1587&pages=1#19
น่าเสียดายครับ ที่ข้อมูลอย่างนี้ ไม่ค่อยมีใครรู้อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลยครับ ไกด์ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ ทะเลไทยก็เลยเละลงทุก ๆ วัน ยังไงล่ะครับ ยังไงก็ช่วย ๆ กันคนละไม้ละมือนะครับ บอก ๆ ต่อกันไปเรื่อย ๆ นะครับ
ส่วนตัวผมเอง เวลาทำทัวร์ทะเล ก็ต้องจัดอบรมสต๊าฟใหม่กันเลยครับ และเรื่องนี้ถือเป็นข้อมูลบังคับที่ไกด์ต้องพูดสำหรับทุก ๆ ทริปทะเลด้วย
จากคุณ : ตะลอนมาสเตอร์
สัตว์น้ำในทะเลทุกตัวหากินด้วยตัวเองและมีระบบเกื้อกูลกับปะการังโดยธรรมชาติ การให้อาหารปลาจะทำลายระบบนิเวศน์ ปลาที่เคยทำความสอาดปะการังและหากินกับปะการังก็จะเสียนิสัยและคอยรออาหารจากนักท่องเที่ยว เมื่อได้กินเป็นประจำก็จะเลิกทำมาหากิน รวมตัวกันเป็นกลุ่มและจะคอบขับไล่ปลาชนิดอื่นๆ จึงเห็นได้ว่าในทะเลทั้งด้านอันดามันและอ่าวไทยที่ไม่มีการควบคุมเรื่องนี้ จะมีบริษัททัวร์หลายทัวร์ใช้การให้อาหารปลาเป็นจุดขาย นักท่องเที่ยวที่เป็นขาจรจะตื่นเต้นที่เห็นปลาแห่กันมากันเป็นฝูง แต่บริษัททัวร์กำลังทุบหม้อข้าวตัวเองเพราะทุกวันนี้ในทะเลที่ทัวร์พาไปดำน้ำตื้นจะเห็นแต่ปลาสลิดหินเหลืองลายและปลานกแก้วเท่านั้น คนรักการดำน้ำจะเสทือนใจและหงุดหงิดมากๆ
จากคุณ : ป้านิด

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ลืม นึกถึงเรื่องนี้ไปเลยอ่า

เห็นด้วยๆๆๆๆคะ